TOEFL

TOEFL (Test of English as a Foreign Language) คือ แบบทดสอบความสามารถเพื่อประเมินความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยเป็นการสอบแบบมาตรฐาน ที่วัดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับสถาบันการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางของการเรียนการสอนโดยมีจัดการสอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจ ภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกา) 

การสอบ TOEFLในอดีตประกอบด้วย 2 แบบ คือ การสอบแบบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ (Paper – Based Testing: PBT)และการสอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำข้อสอบ (Computer – Based Testing: CBT ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงการสอบให้สอบผ่านอินเตอร์เน็ต Internet – Based Testing : IBT โดยจะเลิกใช้การสอบทั้ง 2 แบบไปเรื่อยๆจนกว่าการสอบผ่านอินเตอร์เน็ตจะแพร่หลายมากขึ้น 
ดูรายละเอียดเพิ่ม http://www.toefl.org

อ่านเพิ่มเติม

1.ควรสมัครล่วงหน้า 1 เดือนก่อนสอบ เพราะปัจจุบันตารางสอบ TOEFL iBT ลดลงจาก 4- 5 ครั้ง / เดือน เหลือเพียง 2-3 ครั้ง/ เดือน แถมศูนย์สอบในแต่ละรอบยังลดจำนวนศูนย์สอบลงอีก การสมัครล่วงหน้า 1 อาทิตย์ก่อนสอบ ( ที่ชอบทำกันมาก) ถือว่าเกิน Deadline ของการสมัครสอบค่ะ
การสมัครสอบนะค่ะ หรือ ถ้าน้อง ๆ พยายามกันแล้ว จนได้วันที่สอบมาจริง ๆ ก็จะต้องโดนปรับเพิ่มอีก $ 40 ทันทีเพราะสมัครเกิน Deadline ค่ะ
ล่าสุด การสมัครสอบ TOEFL Fast Track….สมัครก่อน 3-5 วันได้สอบทันที 
การสมัครสอบ TOEFL Fast Track สำหรับคนที่มี ปัญหาเรื่อง “ต้องการสอบ ต้องการได้ผล เร็วที่สุด แต่ไม่ได้จองที่นั่งสอบไว้”
*** สมัครแบบปกติ สมัครสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนก่อนสอบ
สมัครแบบปกติ ค่าสมัครสอบ TOEFL $ 185 และค่าบริการ $ 30 ทั้งหมด $ 215
*** สมัครแบบ Fast Track สมัครสอบ 3-5 วันก่อนสอบ
สมัครแบบ Fast Track ค่าสมัครสอบ TOEFL $ 185 และค่าบริการ $ 30 และทาง ETS เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก $ 40 ทั้งหมด $ 255
ถึงอย่างนั้น ทางสถาบัน ก็ยังแนะนำให้ทุกคนสมัครสอบแบบปกติอยู่ดี เพราะถูกกว่าและการประกาศผลสอบ 2 อาทิตย์ทางอินเตอร์เน็ต และจดหมาย เป็นทางการจาก ETS อเมริกา ประมาณ 1 เดือนหลังสอบเสร็จเหมือกัน
เอาเป็นว่า….ถ้ามีปัญหา “ต้องการสอบ ต้องการได้ผล เร็วที่สุด แต่ไม่ได้จองที่นั่งสอบไว้” ก็โทรเข้ามาคุยกันได้ค่ะที่ 02-583-9024

2. ผลสอบ TOEFL 1 เดือน (2-3 อาทิตย์) หลังสอบ
ผลสอบของ TOEFL ข่าว Update ที่น่าสนใจคือ ทาง ETS ประกาศว่าสามารถประกาศผลสอบทางอินเตอร์เน็ตได้ภายใน 2 อาทิตย์หลังสอบเสร็จ และผลสอบทางจดหมายที่ส่งมาจาก ETS ผู้สอบจะได้รับภายใน 4 อาทิตย์หลังสอบเสร็จ โดยที่มีตารางวันออกผลสอบหรือ Official Score Reports ทางด้านล่างในหัวข้อผลสอบ TOEFL iBT
ตอนนี้ยืนยันได้เกือบ 100 % ค่ะ กับกำหนดวันประกาศผลสอบของ ETS ว่าสามารถออกได้ภายใน 2 อาทิตย์หลังสอบเสร็จ แต่ถ้าเป็นผลสอบแบบเป็นทางการน้อง ๆ เผื่อเวลาไว้ด้วยสัก 4-5 อาทิตย์หลังสอบเสร็จ จดหมายจึงจะส่งมาจากอเมริกา

3. TOEFL ยังมีบริการส่งเอกสารให้สถาบันฟรี 4 สถาบัน
ข้อแม้ก็คือ…จะต้องให้รายชื่อสถาบัน และ รายละเอียดทั้งหมดของคณะ เมเจอร์ ที่ต้องการเรียนมาพร้อมกับการสมัครสอบ TOEFL iBT เรื่องส่งผลสอบไปที่สถาบันน้อง ๆ  ไม่ต้องห่วงนะค่ะว่าผลสอบ TOEFL จะได้คะแนนน้อยหรือ คะแนนมาก เพราะถ้าสอบ 3 หนก็ส่งไป 3 หนเลยค่ะ สถาบันจะเลือกผลสอบที่ดีที่สุดให้เอง หรือ ถ้ากลัวว่าส่งผลสอบไปแล้วไม่เลือกเรียนที่นี่..สถาบันจะไม่พอใจ เพราะผลสอบที่ส่งไปที่สถาบัน 6 เดือนน้องไม่ติดต่อกลับเขาก็ทิ้งเอกสารค่ะ  แต่ถ้าต้องการส่งผลสอบเองก็เรื่องยาวค่ะ….ต้องติดต่อขอผลสอบด้วยตัวเอง เสียเงินฉบับละ 17 เหรียญ ขอเยอะก็เสียเยอะค่ะ

 

4. สมัครสอบ TOEFL ซ้ำ ทำได้เมื่อไหร่ 2016
กฎปี 2016 สำหรับการเว้นระยะการสอบ TOEFL คือเว้นระยะ 14 วันหรือ 1 รอบสอบถึงจะสอบครั้งที่ 2 ได้
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สับสนกับระยะเวลาในการสมัครสอบ TOEFL ที่ ETS เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาถึง 2 ครั้งของปี 2013
อ่านรายละเอียดด้านล่างได้เลยค่ะ
*กฎเมื่อต้นปี 2013 การสมัครสอบครั้งที่ 2 ต้องเว้นระยะไป 21 วัน วันจึงจะทำการสมัครใหม่ได้
*กลางปี July 2013 เปลี่ยนไปใช้กฎเดิมที่เคยใช้มานานแล้ว คือ การสมัครสอบครั้งที่ 2 ต้องเว้นระยะไป 1 รอบสอบเท่านั้นเฉลี่ย

ก็เว้นระยะไปประมาณ 14 วัน ถึงจะสอบใหม่ได้ เช่นตารางสอบเดือน ธันวาคม 2013 คือ Dec 01/07 /15/21/28
สมัครครั้งที่ 1 วันที่ 01/12 จะสมัครได้ครั้งที่ 2 ในวันที่ 15/12 รอบสอบที่ติดกันในวันที่ 07/12 ไม่สามารถสมัครได้
ข้อควรระวัง : ทุกคนชอบสอบติดกัน 2-3 ครั้งซ้อน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า สถิติการสอบซ้ำ คะแนนที่ได้ ก็จะใกล้เคียงกับของเดิม แบบนี้มีให้เห็นอยู่ถึง 90 % ( แม้แต่นักเรียนที่เรียนอยู่ด้วยกันยังห้ามไม่ได้เลย…คะแนนครั้งที่ 2 ก็งั้น ๆ บางทีน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำไป) ETS เปลี่ยนกฎกลับเป็นแบบเดิม อย่างนี้ก็สรุปได้ว่าคงมีนักเรียนจำนวนมากที่ชอบสอบ 2 ครั้งติดติดกัน 

ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ และ ศูนย์สอบในประเทศไทย

Item Fees
Registration (สมัครแบบปกติ ค่าสมัครสอบ ) US $ 185
Late registration (สมัครแบบ Fast Track สมัครสอบ 3-5 วันก่อนสอบ) US$ 40
Rescheduling ( ขอเปลี่ยนแปลงวันสอบ ) US$ 60
Reinstatement of canceled scores US$ 20
Additional score reports (per institution or agency) ส่งผลสอบตรงไปที่อเจนซี่ US$19 each
Speaking or Writing Section rescore US$ 80
Speaking and Writing Section rescore US$ 160
Returned personal check (paper or electronic) US$ 20

 

การสอบ TOEFL ในประเทศไทยจะต้องสมัครผ่านสำนักงาน RRC สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีศูนย์ประจำอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย   
สมัครสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ต บนหน้าเว็บไซต์  www.ets.org (ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็ว และ สะดวกที่สุด โดยสามารถสมัครได้ตลอดเวลา ) ต้องสมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน  โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต Visa, Master, หรือ AMEX ทางจดหมาย ส่งไปที่ มาเลเซีย โดยใบสมัครต้องได้รับก่อนวันสอบ อย่างน้อย 4 อาทิตย์

เมื่อสามารถสำรองวันสอบและศูนย์สอบให้กับผู้สมัครได้แล้ว ทาง RRC (Regional Registration Center) จะจัดส่งหมายเลขยืนยันการสมัคร วันสอบ เวลารายงานตัว ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์สอบและเอกสารส่วนตัวที่ต้องนำติดตัวไปในวันสอบไปให้ยังผู้สมัครทางโทรสาร ไปรษณีย์หรือ e-mail ในกรณีที่ผู้สมัครยังไม่ได้รับหมายเลขยืนยันการสมัคร สามารถโทรไปตรวจสอบกับ RRC ได้ โดยต้องโทรติดต่ออย่างน้อย 3 วันก่อนวันที่ต้องการสอบวันแรก สำหรับประเทศไทย ผู้ที่ต้องการสอบต้องสมัครล่วงหน้าตามกำหนดเวลา ไม่สามารถเดินเข้าไปสมัครสอบ และเข้าสอบในวันนั้นๆ ได้เหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา 

หากผู้สมัครสอบไม่สะดวกที่จะติดต่อสำนักงาน RRC ด้วยตนเอง  สามารถสมัครผ่านศูนย์ศึกษาต่อ AES (Thailand) และศูนย์ภาษา  ดังนี้ 
   1 ศูนย์เมืองทองธานี ที่บริษัท Abroad Education Services (Thailand)  โทร. 0 2574 5669, 0 2574 4079
   2 ศูนย์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่บริษัท WTC Center โทร.  02-6445563,02-6445561
   หมายเหตุ   ค่าสมัครสอบ 180 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าบริการ 30 ดอลลาร์สหรัฐ

การเข้าสอบ
ศูนย์สอบ TOEFL แบบ computer-based test ในประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่เพียงที่เดียวคือ
Institute of International Education – Southeast Asia (IIE)
6th Floor, Maneeya Center North
518/3 Ploenchit Road
Pathumwan, Bangkok 10330
Tel: 0-2652-0653-4
โดยมีการจัดสอบตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ในแต่ละสัปดาห์

หลักฐานที่จะต้องนำไปในวันสอบ
เมื่อผู้สอบเดินทางไปถึงศูนย์สอบ สำหรับการสอบ TOEFL แบบ computer-based test จะต้องแสดงเอกสารต่างๆ ดังนี้

บัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการ ที่มีรูปถ่ายของผู้สอบ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบขับขี่
เบอร์ยืนยันการสมัคร ที่ได้รับเมื่อมีการนัดเวลาสอบ
ชื่อสถาบันการศึกษาและคณะที่ต้องการจัดส่งรายงานผลการสอบไปให้ โดยที่ทางศูนย์สอบ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ code lists ให้เลือก (ถ้ามี)
CBT Voucher (ถ้ามี)

TOEFL Test Date 2016

ตารางสอบ TOEFL iBT 2016

การสอบ TOEFL iBT จะมีการตารางการสอบเฉลี่ยเดือนละ 3-4 ครั้ง โดยปัจจุบัน TOEFL ได้ปรับปรุงเวลาสอบ
ให้ไปตามสากลมากขึ้น เช่น 9.00 น. ในช่วงเช้า และ 14.00 น. ในช่วงบ่าย แต่ก็ไม่สามารถปรับตามเวลาข้างต้น
ได้ทั้งหมด เพราะยังมีการอ้างอิงเวลาตามอเมริกาเป็นหลักเพราะเป็นการสอบแบบ internet ซึ่งจะสอบพร้อมกันทั่วโลก และสุดท้ายก็คือสถานที่สอบ ในการสอบ 1 ครั้งจะมีสถานที่สอบให้เลือกประมาณ 5 – 10 ที่

ศูนย์สอบ TOEFL iBT 2016 / 2559

ตอนนี้ TOEFL มีศูนย์สอบทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ศูนย์สอบของ TOEFL ในต่างจังหวัดมีอยู่ด้วยกัน 5 ศูนย์สอบดังนี้

1. ศูนย์สอบ TOEFL iBT กรุงเทพ Bangkok เป็นจังหวัดที่มีศูนย์สอบย่อยมากที่สุดประมาณ 10 แห่งทั่วกรุงเทพ
2. ศูนย์สอบ TOEFL iBT เชียงใหม่ Chiang Mai
3.ศูนย์สอบ TOEFL iBT สระบุรี Saraburi
4. ศูนย์สอบ TOEFL iBT หาดใหญ่ Hat Yai
5. ศูนย์สอบ TOEFL iBT สุราษธานี Surattani
6. ศูนย์สอบ TOEFL iBT พัทยา Pataya
7. ศูนย์สอบ TOEFL iBT ขอนแก่น Khon Kaen
8. ศูนย์สอบ TOEFL iBT ยะลา YALA

 

ระดับคะแนน TOEFL iBT ปี 2016

TOEFL จะทดสอบทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) และในครั้งจะต้องผสมผสานทักษะต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการตอบคำถาม โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งสำหรับการสอบ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้

Skill Score Range Level
Reading 0–30 High (22–30)
Intermediate (15–21)
Low (0–14)
Listening 0–30 High (22–30)
Intermediate (15–21)
Low (0–14)
Speaking 0–30 score scale Good (26–30)
Fair (18–25)
Limited (10–17)
Weak (0–9)
Writing 0–30 score scale Good (24–30)
Fair (17–23)
Limited (1–16)
Total Score 120

 

การสมัครสอบTOEFL iBT

การสมัครสอบ TOEFL iBT step by step

1. เปิด web www.TOEFL.org
2. คลิกที่ “Register for the Test” ตรงรูปผู้ชายมีหนวด
3. เลือก Country “Thailand” และ City “Bangkok – (iBT)”
4. คลิก “Register Online” ในหน้ากากถัดไป
5. ระวัง! ให้ scroll ขึ้นมาเพื่อคลิกที่ “register online”
6. พบหน้ากาก Log In ให้คลิกที่ “Sign Up” ในส่วนของ New User? เพื่อลงทะเบียน 
7. พบหน้า Create A Profile: Part 1 of 3 กรอกรายละเอียดให้ครบ
8. พบหน้า Create A Profile: Part 2 of 3 กรอกรายละเอียดให้ครบ
9. พบหน้า Create A Profile: Part 3 of 3 ให้เลือก User Name และ Password
=============================================================
ระวัง! เลือก Password ต้องมีส่วนผสมของอักษรตัวใหญ่, อักษรตัวเล็ก, ตัวเลข, และอักษรพิเศษ อย่างน้อยสามจากสี่ประเภทนี้ หากไม่ทำตามก็จะวนอยู่ในหน้านี้ตลอดทั้งวันได้ค่ะ
=============================================================
10. กลับมาที่หน้า Log In ใส่ User Name และ Password แล้วกด “Go” ผมแนะนำให้จด User Name และ Password ไว้นะครับเพราะบริการ Password Assistance ไม่ดีนัก
11. พบหน้า My Home Page คลิกที่ “Register for a Test/Order Score Reports” (ตรงกลางหน้า)
12. เลือก “TOEFL Test” และคลิก “Continue”
13. พบหน้า Before You Begin … คลิก “I agree”
14. พบหน้า Register for a Test เลือก Country/Location เป็น “Thailand” และ Region เป็น “Bangkok”
15. กำหนดช่วงวันสอบที่เราคาดว่าจะสะดวก แล้วคลิกที่ “Search”
=============================================================
ระวัง กำหนด Start Test Date ห่างจาก End Test Date ไม่เกิน 60 วัน
=============================================================
16. เลือกสนามสอบและวันที่เราพอใจ
17. ยืนยันสนามสอบโดยการคลิก “Continue”
18. พบหน้า Select Score Recipients: Part 1 of 2 ให้กรอกรายละเอียดของสถาบันที่เราอยากให้ส่งคะแนนให้ (ไม่เกิน 4 แห่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
19. พบหน้า Select Score Recipients: Part 2 of 2 ยืนยันสถาบันโดยการคลิก “Continue” หรือเพิ่มสถาบันการศึกษาโดยการคลิก “Add Another Score Recipient”
20. พบหน้า Score Reporting Preferences เลือก Web-accessible Score Report and a printed copy mailed to you คลิก “Continue”
21. พบหน้า Demographic Questions คลิก “Continue”
22. พบหน้า Order Summary คลิก “Checkout”
23. พบหน้า Select Payment Method กรอกรายละเอียด คลิก “Continue”

คอร์ส Basic TOEFL

Basic  TOEFL  36  hrs

Basic TOEFL

Basic TOEFL 36 ชั่วโมง 

รายละเอียดคอร์ส

วิธีการสอน Basic TOEFL    36  ชั่วโมง

  • จะสอน Grammar ที่จำเป็น 6 ชั่วโมง 
  • Reading สอนการอ่านบทความ  ซึ่งจะเป็นบทความยาว  700 คำ  การอ่านจับใจความและประเด็นสำคัญ ในบทความ  และเทคนิคการตอบคำถาม หลังจากอ่านบทความเสร็จ    6  ชั่วโมง
  • Listening ฝึกการฟัง เรื่องยาว แนวการฟังบรรยาย  เรื่องละ ประมาณ  5  นาที  และตอบคำถามให้ได้ ในเรื่องที่ฟัง       6  ชั่วโมง
  • Writing ฝึกการเขียนทั้ง 1 แบบ      12   ชั่วโมง

  ฝึกรูปแบบการเขียน  การใช้Grammar ที่ถูกต้องในการเขียน การเลือกใช้คำศัพท์ในการเขียน  และฝึกการเขียนแบบที่หนึ่ง   แสดงความคิดเห็น กับหัวข้อเรื่องที่ได้  สอนโครงสร้างการเขียน  Step by Step   สอนให้เขียนในแต่ละเรื่องได้จำนวนคำประมาณ   150-225  คำ  

– Speaking     สอนการฝึกการแสดงความคิดเห็นเรื่องทั่วไปในสังคมไทย    6  ชั่วโมง 

คอร์สเรียน  Basic TOEFL 36  hrs เวลา อัตราค่าเรียน
กำหนดวันเวลาเรียนได้  (private)  ในช่วง (10.00-13.00) ,(14.00-17.00) ,(18.00-21.00) 21,600

คอร์ส Advanced TOEFL

Advanced   TOEFL  60  hrs

รายละเอียดการสอน Advance TOEFL    60  ชั่วโมง

  • Reading : ฝึกการ อ่านบทความยาว 3-5 เรื่อง  เรื่องละไม่เกิน 700 คำ และตอบคำถาม  42-46  ข้อ   และตอบคำถามให้ได้ภายใน  60 นาที
  • ใจความสำคัญของเรื่อง
  • จุดมุ่งหมายของผู้เขียนบทความนั้น
  • สิ่งที่มีอยู่ในบทความและสิ่งที่ไม่มีอยู่แต่สามารถอ้างอิงได้จากบทความนั้น
  • รู้ความหมายศัพท์ในบทความ
  • รู้ Main Idea ของเรื่องนั้นๆ

 

Writing : ฝึกการเขียนทั้ง  2  แบบ 

  1. แบบที่หนึ่ง แสดงความคิดเห็น กับหัวข้อเรื่องที่ได้  สอนโครงสร้างการเขียน  Step by Step 150-225  คำ
  2. Integrated Writing  ฝึกการอ่านบทความทางวิชาการ พร้อมกับฟังไปด้วย   แล้วฝึกการจับประเด็น ในการรวมรวมข้อมูลที่ได้จากการอ่านและฟัง มาเขียนให้ได้
  • สอนวิธีการเขียนในรูปแบบภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง
  • สอนการเขียนเพื่อยกตัวอย่าง หรืออธิบายเพิ่มเติมได้
  • สอนการเขียนเพื่อให้เหตุผล มาสนับสนุนความคิด
  • สอนวิธีการเขียนเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัว ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่มีมาให้เขียน
  • สอนวิธีเชื่อมโยงประเด็นที่ได้จากการอ่านและฟัง มาเขียนได้ (สำหรับข้อ Integrated Writing )

Listening :

– ฝึกการฟังบรรยายทางวิชาการ (Lectures) 4-6 เรื่อง    แต่ละเรื่อง ความยาวเรื่องละประมาณ 3-5 นาที และ  ตอบคำถามประมาณ   6 ข้อ
– ฟังบทสนทนา(Conversations) 2-3 บท ในแต่ละเรื่อง ความยาวเรื่องละประมาณ  3 นาที และตอบคำถาม 5 ข้อในแต่ละบท 

สอนวิธีเก็บรายละเอียดการฟัง อาทิ

  • ใจความของเรื่อง
  • รายละเอียดของเรื่อง
  • จุดประสงค์และทัศนคติเของผู้พูด
  • ความสามารถในการอ้างอิงข้อมูล และนำข้อมูลมาประยุกต์ต่อได้
  • การจัดหมวดหมู่เนื้อหา
  • การสรุปความ
  • Speaking

ฝึกการพูด  การตอบคำถามให้ตรงประเด็น  และฝึกการให้เหตุผลขณะตอบโต้  และสามารถสรุปคำตอบได้

  1. ฝึกพูดให้เหตุผลและสนับสนุนเหตุผลของตัวเองในเรื่องทั่วๆไป เช่น

 

  1. เราชื่นชมใคร เพราะอะไร
  2. ที่เที่ยวที่ใหนที่ประทับใจที่สุด เพราะอะไร
  3. สถานที่ใดที่อยากไป
  4. เหตุการณ์ใดที่ประทับใจที่สุด
  5. วันหยุด อยากนอนพักผ่อน หรือ ไปเที่ยว มากกว่ากันเพราะอะไร

 

2. สามารถพูดหรือดึงข้อมูลจากข้อมูลที่ให้มา มาพูดได้

3. สามารถอธิบายประกอบรายละเอียดในเรื่องที่ให้มาได้

4. พูดให้เหตุผลและแสดงความคิดต่อเนื่องได้

5. สามารถพูดสรุปประเด็น ทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าเราต้องการสื่อถึงอะไร

เป้าหมาย:

  • ผู้เรียนสามารถเข้าใจแนวทางของข้อสอบและทำข้อสอบได้ รวมถึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ ในการเรียนต่อระดับสูง  ทั้งการฟังบรรยายทางวิชาการ  การจดเล็คเชอร์ให้ได้ใจความ  การอ่านตำราเรียน  การพูดในการพรีเซ็นผลงานหน้าห้องเรียน

ตารางเรียน

คอร์สเรียน Advanced TOEFL 60  hrs เวลา อัตราค่าเรียน
กำหนดวันเวลาเรียนได้  (private)  ในช่วง (10.00-13.00) ,(14.00-17.00) ,(18.00-21.00) 36,000

TOEFL IPT คืออะไร

TOEFL  IPT  คือ แบบทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับสอบตรงเข้ามหิดลอินเตอร์   TOEFL IPT ชึ่ง ข้อสอบตัวนี้ก็คือ TOEFL PBT ที่ ETS นำมาโมใหม่ ให้กับ มหิดลอินเตอร์ หรือ
สถาบันการศึกษาที่ต้องการ ก็จะมีข้อสอบเก่า บวก ข้อสอบใหม่  จัดทำขึ้นเพื่อ สถาบันที่ใช้   TOEFL IPT สอบ ๆ กันอยู่ก็ 2 สถาบัน คือสำหรับสอบ
เข้ามหิดลอินเตอร์ และ สอบเข้านิด้า
ข้อสอบ TOEFL IPT MUIC ทดสอบ 4 Skills 
1.Listening Comprehension สอบการฟัง : Understand English as it is spoken in North America
2. Structure and Written Expression สอบ Structure ภาษาอังกฤษ : Appropriate for standard written English 
3. Reading Comprehension สอบการอ่าน : Ability to understand non-technical reading materia
4. Writing Test สอบการเขียน ซึ่ง TOEFL เรียกการสอบตัวนี้เป็นภาษาทางการว่า TWE (Test of Written English)

เนื้อหารายวิชา 
Mahidol University International College หรือที่รู้จักกันในชื่อ MUIC ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหิดลที่ถือกำเนิดขึ้นในปีพ.ศ. 2529 เพื่อทำการสอนหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งถือเป็น มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งแรกที่เปิดสอน  การสอบเข้าเพื่อเรียนใน MUIC นั้นเป็นระบบการสอบกลางซึ่งทุกหลักสูตรจะใช้ข้อสอบเดียวกัน ซึ่งหากผู้สอบสามารถทำคะแนนได้ตามเกณฑ์ก็จะได้รับคัดเลือกเข้าเรียนใน MUIC ต่อไป 

รายวิชาในหลักสูตร  แบบทดสอบ MUIC นั้นประกอบได้ด้วย 3 วิชาดังต่อไปนี้ 
1. ITP TOEFL (เป็นข้อสอบที่คล้ายกับ TOEFL PBT ซึ่งต่างจาก TOEFL iBT เช่น ไม่มีการสอบ Speaking)
2. Writing 
3. Mathematics
*หากสมัครในหลักสูตร Entertainment Media Production และ Communication Designจะมีแบบทดสอบต่างหาก โดยผู้มีสิทธิสอบเข้า มหิดลอินเตอร์จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นคือ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หากผู้สมัครมีผลทดสอบต่างๆดังต่อไปนี้ จะได้รับยกเว้นไม่ต้องสอบในวิชา ITP TOEFL 
1. TOEFL iBT ตั้งแต่ 79 คะแนนขึ้นไป
2. IELTS ตั้งแต่ 6.0 คะแนนขึ้นไป
3. SAT (Critical Reading และ Writing รวมกัน) ตั้งแต่ 1,100 คะแนนขึ้นไป

ผลสอบ MUIC นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ในมหิดลอินเตอร์
ผลสอบ MUIC สามารถนำไปใช้สมัครเรียนทุกหลักสูตรที่เปิดสอนโดย MUIC ในมหิดลอินเตอร์ ได้แก่
1. Communication Design
2. Animation Production
3. Film Production
4. Television Production 
5. Social Science
6. Business Economics
7. Finance
8. Information Systems
9. International Business
10. Marketing
11. Tourism and Hospitality Management
12. Applied Mathematics
13. Biological Science
14. Chemistry
15. Computer Science
16. Environmental Science
17. Food Science and technology
18. Physics
19. Computer Engineering

ช่วงเวลาในการสอบเข้ามหิดลอินเตอร์
ในแต่ละปีจะมีการเปิดสอบ MUIC ทั้งสิ้น 4 รอบได้แก่
รอบที่ 1: จะเปิดรับสมัครประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมและสอบในเดือนพฤษภาคม
รอบที่ 2: จะเปิดรับสมัครประมาณเดือนกรกฎาคมและสอบในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน
รอบที่ 3: จะเปิดรับสมัครประมาณเดือนตุลาคมและสอบในเดือนตุลาคมเช่นกัน
รอบที่ 4: จะเปิดรับสมัครประมาณเดือนมกราคมและสอบในเดือนกุมภาพันธ์

ระบบภาคเรียนของ MUIC เป็นแบบ Trimester หรือ 3 ภาคการศึกษาต่อปี ผู้ที่สอบในรอบทั้ง 4 จะเริ่มต้นเรียนไม่พร้อมกัน ตามรายละเอียดต่อไปนี้ 
   – ผู้ที่ผ่านการสอบในรอบที่ 1 และ 2 จะเริ่มเรียนในเดือนกันยายน 
   – ผู้ที่ผ่านการสอบในรอบที่ 3 จะเริ่มเรียนในเดือนมกราคม 
   – ผู้ที่ผ่านการสอบในรอบที่ 4 จะเริ่มเรียนในเดือนเมษายน

ขั้นตอนการเข้าศึกษาและค่าสมัครสอบเข้ามหิดลอินเตอร์

  • สำหรับผู้สมัครทั่วไป
  • สำหรับผู้สมัครต่างชาติ

สำหรับผู้สมัครทั่วไป 
ขั้นตอนการสมัครเข้ามหิดลอินเตอร์ 
1.กรอกใบสมัครทางเว็บไซด์ ตามวัน และเวลาที่ทางวิทยาลัยฯ กำหนด : แบบฟอร์มสมัครสอบออนไลน์  (คู่มือการลงทะเบียน | PDF)
 2. ส่งเอกสารการสมัครที่วิทยาลัยฯ หรือส่งทางไปรษณีย์ภายในวันที่กำหนด โดย 
2.1 ส่งเอกสารพร้อมค่าสมัครสอบด้วยตนเองที่วิทยาลัยฯ โดยผู้สมัครต้องแต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดสุภาพ
2.2 ส่งเอกสารพร้อมค่าสมัครสอบ (ธนาณัติ หรือโอนเงินค่าสมัครสอบเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี “วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล” เลขที่บัญชี 333-208153-4) ทางไปรษณีย์ ก่อนปิดรับสมัคร 1 สัปดาห์
**หมายเหตุ ผู้สมัครทั่วไป ที่ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ กรุณาติดต่อ Admissions Office ภายใน 1 สัปดาห์ หลังส่งเอกสารเพื่อติดตามรับบัตรสอบ
ผู้สมัครในหลักสูตรบริหารธุรกิจ ยกเว้นสาขาวิชาการจัดการบริการนานาชาติ ต้องเลือกอีกหนึ่งสาขาวิชาจากสาขาวิชาทั้งหมด หากผู้สมัครไม่ได้รับการคัดเลือกในสาขาวิชาที่เลือกอันดับแรก วิทยาลัยฯจะพิจารณาเลือกสาขาวิชาลำดับที่ 2 ให้แก่ผู้สมัครแทน กรุณาติดต่อหน่วยรับสมัครและจัดสอบเพื่อกรอกแบบฟอร์ม
“ส่วนงานรับสมัครและจัดสอบ”
วิทยาลัยนานาชาติ  มหาวิทยาลัยมหิดล 
999  ถนนพุทธมณฑลสาย 4  ตำบลศาลายา
จังหวัดนครปฐม  73170

เอกสารที่ใช้ในการสมัครเข้ามหิดลอินเตอร์ 
1.ใบแสดงผลการเรียน (ปพ.1)
2.ใบประกาศนียบัตร (กรณีจบการศึกษาแล้ว) 
2.1       ใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงศึกษาธิการ (ปพ.2)
2.2       ใบประกาศนียบัตรจากโรงเรียน กรณีจบจากโรงเรียนนานาชาติ หรือประกาศนียบัตรของประเทศนั้นๆ กรณีจบจากต่างประเทศ
3.จดหมายรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน (ปพ.7) (กรณีกำลังศึกษาอยู่)
4.รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 รูป สวมชุดนักเรียน หรือชุดสุภาพ (เสื้อเชิ้ต)
5.ผลสอบภาษาอังกฤษ (Official score report) TOEFL หรือ IELTS หรือ SAT I มีอายุไม่เกิน 2 ปี (ถ้ามี)
6.Recommendation letter จากอาจารย์ที่โรงเรียน 2 ท่าน
7.สำเนาทะเบียนบ้าน 
8.สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (กรณีคนต่างชาติ) 
9.จดหมายรับรองการเทียบวุฒิจากกระทรวงศึกษาธิการ (กรณีจบจากโรงเรียนนานาชาติหรือต่างประเทศ) 
10.ค่าสมัคร 
หมายเหตุ 
1. การสอบ IGCSE ต้องได้ผลคะแนน C อย่างน้อย 5 วิชา
2. การสอบ GED ต้องมีผลคะแนนผ่าน 5 วิชา (และได้คะแนนวิชาละไม่ต่ำกว่า 410 คะแนน) และได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 2,800 คะแนน

รายละเอียดค่าสมัครสอบ

รายละเอียด ส่งด้วยตนเอง ส่งไปรษณีย์
1. ผู้สมัครที่ไม่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษระดับสากล (TOEFL, IELTS, SAT1) 2,000 2,050
2. ผู้สมัครที่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษระดับสากล โดยมีผลคะแนน ดังนี้
2.1 TOEFL (IBT) 79 คะแนนขึ้นไป
2.2 IELTS (Academic band) 6.0 คะแนนขึ้นไป
2.3 SAT1 (Critical Reading and Writing)
1100 คะแนนขึ้นไป
1,200 1,250

 

สำหรับผู้สมัครต่างชาติ

กรอก “แบบฟอร์มสมัครสอบออนไลน์” ยื่นเอกสารตามที่กำหนด ดังนี้

รูปถ่ายในชุดเครื่องแบบนักเรียนหรือชุดสุภาพ 3 ใบ (ขนาด 1 นิ้ว)

ประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าฉบับจริง (พร้อมเอกสารฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ)

ใบรายงานผลการศึกษา (พร้อมเอกสารฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ)

ผลคะแนนสอบ TOEFL หรือ IELTS หรือ SAT1 (นักศึกษาที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ต้องยื่นผลคะแนนสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง)

สำเนาหนังสือเดินทาง

จดหมายแนะนำตัว 2 ฉบับ

ค่าสมัครสอบ

ส่งเอกสารทั้งหมดพร้อมทั้งค่าสมัครสอบโดย

ยื่นเอกสารและชำระค่าสมัครสอบด้วยตนเองเป็นเงินสด ที่ส่วนงานรับสมัครและจัดสอบ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล

ส่งเอกสารพร้อมค่าสมัครสอบ* ก่อนถึงกำหนดปิดรับสมัครอย่างน้อย 1 สัปดาห์มาที่

“ส่วนงานรับสมัครและจัดสอบ”
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
999 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลศาลายา
จังหวัดนครปฐม 73170
* ธนาคารไทยพาณิชย์ (สาขามหาวิทยาลัยมหิดล)
เลขที่บัญชี 333 2 08153 4

กำหนดการดังกล่าว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม 
หมายเหตุ: 
ผู้สมัครที่ส่งผล IGCSE จะต้องสอบผ่านเกรด C อย่างน้อย 5 วิชา
ผู้สมัครที่ส่งผล GED จะต้องสอบผ่านทุกวิชาและได้คะแนนรวมขั้นต่ำ 2800 คะแนน (วิทยาลัยฯ จะพิจารณาคะแนนรวมแต่ละปีการศึกษา)