เรียน IELTS TOEIC CU-TEP TU-GET และ พูดภาษาอังกฤษ รับรองผลให้คุณแน่นอน

“บ้านไม่รวยเก่งภาษาอังกฤษได้ป่ะ”

เคยน้อยเนื้อต่ำใจหรือเปล่าคะ ว่าเพราะบ้านเราไม่รวยอะดิ ช่วงปิดเทอมถึงไม่ได้ ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศเหมือนลูกคนที่เค้ารวยๆ กัน

น้องสมาร์ท ก็อยากจะบอกว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ค่ะ อาจจะต้องออกแรงมากหน่อยเพื่อให้ได้จุดหมายปลายทางเดียวกัน …

เคยเป็นใช่ไหมคะ เรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนตั้งแต่อนุบาล-มหาวิทยาลัย แต่กลับสื่อสารไม่ได้

เจอฝรั่งแล้ววิ่งหนีทุกที ใช้เวลาอย่างน้อย 16 ปี เป็นที่รู้ๆกันว่าการจะเก่งภาษาต้องไปหมกตัวในสิ่งแวดล้อมนั้นๆแต่ถ้าบ้านไม่รวย

การที่จะไปต่างประเทศก็ไม่ใช่ช่องทางที่จะทำได้ง่าย เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงหรือไม่ก็อาจจะต้องหาสอบชิงทุนไป ซึ่งก็ต้องเก่งๆถึงจะสอบได้

ซึ่งทักษะภาษามี 4 ทักษะ คือฟัง พูด อ่าน เขียน ฟัง กับ อ่าน สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพราะเป็น (input) พูดกับเขียนถ้าไม่มีทักษะมากพอ จะฝึกทักษะการพูดหรือ เขียน ก่อนจะยากกว่าที่จะเริ่มจากฟังและอ่าน ฟัง ทักษะที่สามารถทำได้เลย และจะเป็นทักษะแรกที่ผู้ที่ต้องการเก่งภาษาควรฝึกก่อน ยิ่งสมัยนี้ที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน เราสามารถฟังข่าว หรือ app ต่างๆ ที่ให้โหลดฟังเสียงฟรี !! หรือเลือกเข้าไปฟังและดูคลิปต่างๆ ที่เราสนใจ ตาม Youtube เช่นสอนทำอาหาร สอนแต่งหน้า ทำผม และอีกมากมาย โหลดข่าวของ CNN มาไว้ฟังขณะนั่ง BTS , MRT ก็สามารถทำได้ง่าย หรือถ้าใครชอบดูหนังหรือซีรี่ต่างๆก็ขอเป็น Subtitle อังกฤษ เวลาดูครั้งแรกๆ ต้องปรับ mind set อย่ากลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง อย่าอายที่จะหัดพูดตามเวลาดูพยายามเลือกแนวโรแมนติก หรือ แนวดราม่า นะคะ เพราะแนวพวกนี้จะมีบทพูดเยอะ ที่จะให้ฝึกฟัง ได้ หรือเริ่มจากดูการ์ตูนวอลดิสนี่ ก็ดูเพลินๆ ดี การอ่าน แนะนำให้เริ่มจากอ่าน ในสิ่งที่สนใจก่อน เช่นอาจจะเป็นการอ่านการ์ตูน นิตรสาร แฟชั่น บทความ นิยายอังกฤษ หากเจอคำศัพท์ แปลกๆ ใหม่ ก็เปิดพจนานุกรม และเขียนความหมายไว้ แต่ช่วงแรกไม่ต้องเปิดทุกคำ เพราะจะทำให้ท้อไปก่อน ให้หัดเดา จากประโยคใกล้เคียง ถ้าเดาไม่ออก ก็ข้ามไปก่อนไม่ต้องอ่านเพื่อเข้าใจทุกประโยคทุกบรรทัด เพราะไม่ได้อ่านเพื่อแปลเรียงตัว เพราะการอ่านเพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั้นให้อ่านเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวมก่อน เพราะถ้าอ่านบ่อยๆก็สามารถเข้าใจหรือจำศัพท์ โครงสร้างไวยากรณ์ ได้เมื่อพอได้ทักษะฟัง กับอ่าน ต่อมาค่อยฝึกการพูดและเขียน ซึ่งก็จะ ทำให้การฝึก 2 ทักษะนี้ง่ายขึ้น หรือ บางทีได้โดยอัตโนมัติ เข้าใจคำศัพท์ และ หลักไวยากรณ์ โดยไม่ต้องกังวลที่จะต้องท่องจำ